หลายคนอาจมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัตถุดิบของซูชิและซาชิมิอยู่บ้าง โดยซาชิมิ คือ อาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยอาหารทะเลสดแล่เป็นชิ้นพอดีคำ รับประทานกับซอสโชยุ อาจมีวาซาบิ หรือขิงร่วมด้วย ส่วนซูชินั้นคือ ข้าวปั้น มีบางหน้าโปะด้วยเนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกแล้ว แตกต่างจากซาชิมิที่เป็นอาหารทะเลสดเท่านั้น โดยเนื้อปลาสดที่นิยม เช่น มากุโร่ แซลมอน ซาบะ เป็นต้น
ส่วนใหญ่แล้วซาชิมิหาทานได้ในร้านซูชิ เพราะใช้วัตถุดิบหลักเป็นปลาดิบเหมือนกัน รวมถึงร้านอิซากายะ (ร้านเหล้าญี่ปุ่น) อีกทั้งยังมีขายเป็นแพ็คในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่แน่นอนว่าถ้าจะให้อร่อยสดใหม่ที่สุดต้องเป็นร้านที่อยู่ใกล้ท่าเรือหรือที่่อยู่ใกล้แหล่งขายปลานะคะ
เริ่มกันที่ เมนูอาหารญี่ปุ่น ยอดฮิตอย่าง ข้าวหมูทอดทงคัตสึ ข้าวหมูทอดสไตล์ญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณหลังรักการกินหมูทอด ด้วยสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน อร่อยได้ในคำเดียว ทำให้เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของคนไทยเลยก็ว่าได้ ซึ่งสูตรนี้ได้มาจาก เชฟโฌ เชฟชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ เลยทีเดียว รับรองว่า ถ้าทำขาย รสชาติอร่อย ไม่แพ้ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแน่นอน
ส่วนผสมหมูทอด
ส่วนผสมซอสทงคัตสึ
วิธีทำหมูทอด
วิธีทำซอสทงคัตสึ
หลายคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความสวยงามทั้งภูมิประเทศและวัฒนธรรม โดยเฉพาะวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นจะมีความพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัตถุดิบที่เน้นให้ประโยชน์ร่างกายหรือเครื่องดื่มที่ถูกเลือกให้เหมาะสมกับเมนูอาหารนั้น ๆ เพื่อช่วยส่งเสริมรสชาติและรสสัมผัส รวมไปถึงการใช้ภาชนะที่ทำจากดินเผาหรือไม้เพื่อกักเก็บความร้อนและเพิ่มกลิ่นหอม ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นภูมิปัญญาอันชาญฉลาดที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น และยังคงพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน
ซึ่งอาหารการกินเป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นจะใส่ใจมากเป็นพิเศษเลยค่ะ โดยคนญี่ปุ่นจะทานข้าววันละ 3 มื้อ แต่ละมื้อจะมีอาหารหลากหลายและมีโภชนาการครบถ้วน เรียกว่า “1 ซุป 3 กับข้าว” นั่นก็คือมีซุปหนึ่งถ้วย ข้าวหนึ่งถ้วย และกับข้าวอีกสามชนิด จัดเสิร์ฟเป็นเซตส่วนตัวค่ะ นอกจากนี้คนญี่ปุ่นจะนิยมทานอาหารตามฤดูกาลเพื่อความสดใหม่และเป็นการรักษาสมดุลของธรรมชาติด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการตกแต่งหน้าของอาหารให้สวยงาม ซึ่งจะเพิ่มความอร่อยและความสุขทางใจได้อีกด้วยค่ะ อีกหนึ่งเหตุผลที่อาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมเพราะอาหารญี่ปุ่นจะเน้นใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ใช้เครื่องปรุงรสน้อย วัตถุดิบแต่ละชนิดที่ใช้ก็เน้นในเรื่องของสรรพคุณต่าง ๆ ปรุงให้มีรสชาติอ่อนและเน้นทานแบบสดใหม่ ทำปุ๊บทานปั๊บ เมื่อทานเข้าไปแล้วจะรู้สึกอบอุ่น รู้สึกสบายท้อง รวมทั้งยังสดชื่นอีกด้วย
นอกจากรสชาติเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม แล้ว อาหารญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างค่ะ นั่นก็คือรสชาติ “อูมามิ (旨味)” หรือรสชาติของความอร่อยกลมกล่อมนั่นเอง รสอูมามิคือรสชาติที่ 2 ที่ซ่อนอยู่ในอาหาร สิ่งที่สามารถดึงความอูมามิออกมาได้คือ “สาหร่าย” และ “ปลาแห้ง” ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งภาพจำของอาหารญี่ปุ่นที่หลาย ๆ คนมักจะนึกถึงนั่นเองค่ะ และเมื่อนำสาหร่ายและปลาแห้งมาต้มแล้วกรองเอาแต่น้ำก็จะกลายเป็นน้ำสต๊อกดาชิ ที่เป็นเบสหรือพื้นฐานของอาหารประเภทเส้นหรือน้ำซุปหลายชนิดของญี่ปุ่นค่ะ นอกจากน้ำสต๊อกแล้วเครื่องปรุงอาหารญี่ปุ่นจะมีหลัก ๆ เพียง 5 ชนิด นั่นก็คือ น้ำตาล (さとう/ซะโตะ) เกลือ (しお/ชิโอะ) น้ำส้มสายชู (酢 /ซึ) ซอสถั่วเหลือง (しょうゆ/โชยุ) และ เต้าเจี้ยว (みそ/มิโซะ) ซึ่งเครื่องปรุงเหล่านี้จะสามารถดึงความอร่อยของวัตถุดิบออกมาได้อย่างเต็มที่
ภูมิภาคคันโต(Kanto)เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงมหานครโตเกียว(Tokyo)เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่และมีระบบการคมนาคมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่โตเกียวเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น มีแหล่งช้อปปิ้งและกินดื่มมากมาย รวมถึงสถานที่ทางศิลปะวัฒนธรรมอย่างเช่น ปราสาท พระราชวัง ศาลเจ้าและวัดดังๆรวมกันอยู่ที่เมืองนี้มากมาย
ภูมิภาคคันโตมีพื้นที่เป็นที่ราบประมาณ 45% ที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นเทือกเขา ชายหาดและแม่น้ำทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายนอกเหนือจากเมืองหลวง
ตัวอย่างการท่องเที่ยวง่ายๆ แบบเช้าไปเย็นกลับจากเมืองโตเกียวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ เช่น โยโกฮาม่า(Yokohama)ที่เป็นเมืองท่าในสมัยเปิดประเทศช่วงปลายสมัยเอโดะ, ศาลเจ้าเก่าแก่ที่เป็นมรดกโลกที่นิกโก้(Nikko)เมืองหลวงเก่าติดทะเลคามาคุระ(Kamakura)ซึ่งเจริญรุ่งเรืองเป็นศูนย์กลางทางกลางเมืองและวัฒนธรรมยุคกลางของญี่ปุ่น และเมืองแห่งนํ้าพุร้อนฮาโกเน่(Hakone)ที่มีชื่อเสียงด้านทะเลสาบและวิวภูเขาไฟฟูจิ
ภูมิภาคชุบุ(Chubu)มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอยู่มากมายอยู่ติดกับภูมิภาคคันโต(Kanto)และภูมิภาคคันไซ(Kansai)มีเทือกเขาสูงชันทำให้เกิดสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันมากในภูมิภาคนี้ เช่นส่วนที่ติดกับทะเลจะอบอุ่นแต่ในเทือกเขากลับมีหิมะหนาสูง 5 เมตร ประกอบไปด้วย 9 จังหวัดย่อย มีเมืองนาโงยะ(Nagoya)เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค
ภูมิภาคชุบุมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ธรรมชาติ ภูเขา ทะเล ไปจนถึงวัฒนธรรมและเทคโนโลยี สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ เช่น เทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น ที่มีกำแพงหิมะหรือสโนว์วอลหนาสูงถึง 5 เมตร, ปราสาทมัตสึโมโต้ที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม, หมู่บ้านหลังคาโบราณชิราคาวะโกะ, สกีรีสอร์ท, ชายหาด และเมืองออนเซนอีกมากมาย ทำให้ชุบุสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีเลย
โอชาซึเกะ (Ochazuke) หรือข้าวแช่ญี่ปุ่น มีลักษณะเหมือนกับข้าวแช่ของไทย ถ้าเป็นของไทยจะใส่น้ำเย็นๆ ลงไป แต่สำหรับญี่ปุ่นนั้นนิยมใช้น้ำร้อนธรรมดาเทผสมกับข้าวสวย แต่ต่อมาในยุคหลังจึงมีการประยุกต์มาใช้น้ำชาแทน ตั้งแต่ปี 1970 สำหรับใครที่เบื่ออาหารการกินสไตล์ญี่ปุ่นแบบเดิมๆ อย่างราเมน ทงคัตสึ ซูชิ โอโคนิยากิแล้ว ก็มาลองกินอะไรใหม่ๆ กันบ้างอย่างเมนูโอชาซึเกะซึ่งเป็นอาหารเบาๆ ไม่ยุ่งยาก แต่อร่อยแน่นอน
วิธีการกิน
แต่ก่อนจะกินก็ต้องรู้จักวิธีการกินก่อน ซึ่งวิธีการกินก็ง่ายๆ เมื่อสั่งอาหารแล้ว ทางร้านอาหารจะเสิร์ฟข้าวมาคู่กับกาน้ำชา และเวลากินก็เริ่มจากการเทน้ำชาลงไปในชาม แล้วก็เริ่มอร่อยได้เลย โดยแต่ละร้านก็จะมีข้าวหน้าต่างๆ ให้เลือก เช่น ข้าวหน้าปลาแซลมอน ข้าวหน้าปลาทูน่า ส่วนปริมาณของอาหารนั้นขึ้นอยู่กับการเลือกของเราว่าจะเลือกอิ่มไซส์เล็กหรืออิ่มไซส์ใหญ่