ชมการประดับไฟช่วงคริสต์มาส
คริสต์มาสเป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่คนญี่ปุ่นจะตื่นเต้นเป็นพิเศษไม่แพ้ประเทศในแถบตะวันตกเลยล่ะค่า เมื่อเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนจะถือว่าเป็นฤดูแห่งการประดับไฟฤดูหนาวที่โด่งดังไปทั่วโลก แต่ละที่จัดเต็มกันสุดๆ อลังการและโรแมนติกมากกก รับรองว่าตื่นตาตื่นใจจนต้องร้องว้าววววววว! อย่างแน่นอน
โตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown) ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้เลยค่ะสำหรับที่นี่ เพราะโด่งดังมากกจัดติดต่อกันมากว่า 10 ปีแล้วค่ะ เป็นเทศกาลงานแสดงไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโตเกียว โดยได้เนรมิตสนามหญ้าในสวน Starlight Garden ของโตเกียวมิดทาวน์ให้กลายเป็นทุ่งไฟไดนามิกสีฟ้าที่ส่องแสงระยิบระยับ โดยใช้หลอดไฟ LED กว่า 280,000 ดวง สวยงามละลานตาเหมือนได้หลุดไปอยู่ห้วงอวกาศเลยค่ะ
เราจะได้เห็นความสวยงามของการประดับไฟในรูปแบบต่างๆ ที่แบ่งออกเป็น 11 ส่วน ทั้งบนต้นไม้ ต้นคริสต์มาส ท้องถนน ชอบตรงที่มีการเล่นไฟให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางต่างๆ พร้อมเปิดเพลงประกอบอีกด้วย >,< โดยจะจัดแสดงในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึง ปลายเดือนธันวาคม ตั้งแต่เวลา 17:00 – 23:00 ค่า
ฮอกไกโด
ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของ ญี่ปุ่น ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลาย ทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน และชายฝั่งทะเล มีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว มีหิมะที่ขาวละเอียดดุจแป้งฝุ่นและสกีรีสอร์ท ที่ดึงดูดนักเล่นสกีจากทั่วโลก ขณะที่ในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระจะบานช้ากว่าภูมิภาคอื่นในญี่ปุ่น สามารถชมซากุระได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ส่วนฤดูร้อนอากาศจะไม่ร้อนเหมือนส่วนอื่น ๆ เพราะมีทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีก่อนที่อื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายนจนถึงตุลาคม
โดยมี เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็น เมืองหลวงของฮอกไกโด ซึ่งในซัปโปโรมี สวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาชมงานในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ ยังมีหอนาฬิกาอันเก่าแก่ และที่ว่าการเมืองฮอกไกโด อีกทั้งย่านร้านค้าซุซุกิโนะ ซึ่งเป็นศูนย์การค้า และแหล่งจับจ่ายซื้อของที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้
เมืองฮะโกะดะเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญ ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของฮอกไกโด ในยามเช้าสามารถเที่ยวตลาดสดขายอาหารทะเลสด ๆ ที่มีให้ชิม ยามสายเที่ยวชมโบสถ์ และป้อมปราการโบราณในเมือง ยามเย็นนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนเขาฮะโกะดะเตะ ชมทิวทัศน์ยามราตรีที่สวยงามได้รอบทิศ ด้านเมืองอะซะฮิกะวะ (Asahikawa) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟด่วนจากเมืองซัปโปโร และจากเมืองอะซะฮิกะวะไปทางตะวันออกจะมี อุทยานแห่งชาติไดเซะทสุซัง ซึ่งมี บ่อน้ำแร่โซอุนเกียว ให้เพลิดเพลินในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมีธรรมชาติอันสวยงามที่เป็นชายฝั่งทะเลใกล้ เมืองอะบะชิริ (Abashiri) มีธารน้ำแข็งให้ชมในฤดูหนาว และ คาบสมุทรชิเระโตะโกะ (Shiretoko) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วย อีกทั้งทะเลสาบอะคัง ทะเลสาบมาชูและ ทะเลสาบคุชิโระ และทางตะวันตกของฮอกไกโดมี เมืองโอะตะรุ (Otaru) เป็นเมืองท่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองค้าขาย ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 รอบ ๆ เมืองจะมีคลองโอะตะรุ เป็นโบราณสถาน แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยบุกเบิก มีถนนร้านซูชิที่สดที่สุดในโลกให้ลองลิ้มชิมรส
เที่ยวญี่ปุ่น หิมะ เริ่มต้นกันที่หมู่บ้าน Shirakawago ที่มีความเก่าแก่ในประเทศญี่ปุ่น ความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ได้ถูกขึ้นเป็นมรดกโลก หมู่บ้านแห่งนี้สามารถไปท่องเที่ยวได้ทั้งปี ในแต่ละฤดูกาลก็จะเปลี่ยนไปตามฤดู แต่ขอแนะนำช่วงฤดูหนาว เพราะจะได้เห็นหิมะ สีขาวทั่วทั้งหมู่บ้าน เหมาะกับใครที่สนใจอยากเห็นหิมะพร้อมกับบรรยากาศสุดแสนคลาสสิก การเดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้สามารถเดินทางโดยรถบัส ที่เมือง Takayama ใช้เวลาเดินทางประมาณไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ช่วงฤดูใบไม้ผลิคงไม่มีความงดงามใดเกินหน้าเกินตาเหล่ามวลบุปผาและดอกไม้นานาพันธุ์ ที่กำลังออกดอกเผยความงามเบ่งบานอวดสายตาเหล่านักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเองและจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งดอกบ๊วยและดอกสึบากิ (ดอกคามิเลีย) ที่เผยความงามก่อนหน้านี้ไปบ้างแล้ว ดอกซากุระอันโด่งดังก็ได้รับการพยากรณ์ว่าจะเริ่มผลิดอกช่วงประมาณกลางเดือนมีนาคมนี้ ไล่ขึ้นไปตั้งแต่โอกินาว่าทางใต้จรดเกาะฮอกไกโดทางเหนือ
และอีกหนึ่งความงดงามที่กำลังเบ่งบานไล่เลี่ยกันอย่างดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่าดอกฟูจิ โดยเฉพาะที่ คาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น (Kawachi Fuji Garden) เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) จ.ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ภายในสวนแห่งนี้มีดอกวิสทีเรียมากกว่า 22 สายพันธุ์ พร้อมบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร
ความจริงแล้วสวนแห่งนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งต้องขอบคุณทางเจ้าของสวนใจดี ที่เปิดประตูให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมความงาม (แต่เก็บเงินนะ) สำหรับปีนี้ กำหนดการการเยี่ยมชวนสวน Kawachi Fuji Garden ได้ประกาศออกมาแล้วคือระหว่างวันที่ 21 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2561 เริ่มจำหน่ายบัตรเข้าชมในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ (7 Eleven กับ Family Mart ทุกสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น) โดยราคาค่าบัตรขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความงามบานสะพรั่งของดอกวิสทีเรียในวันนั้นๆ (ราคาประมาณ 500- 1,500 เยน)
เมืองฝาแฝดเกียวโต ประจำจังหวัดกิฟุ อย่างหมู่บ้าน Takayama ก็สวยจนไปกี่ครั้งไม่เคยเบื่อ รวไมปถึงถ้าให้ชื่นชอบบ้านไม้เก่าๆ สไตล์ญี่ปุ่นด้วยล่ะก็ หูยยยย จะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน แม้จะเป็นทางผ่านที่ไปหมู่บ้านชิราคาว่าโกะ แต่ก็น่าสนใจไม่น้อย
ตั้งอยู่ในใจกลางของ Hida Takayama สถานที่แห่งนี้จัดได้ว่าเป็นที่ที่เก่าแก่ และไม่ถูกการทำลายภูมิทัศน์ด้วยอาคารหรือถนนมากนั้น ด้วยอาคารเก่าๆ ที่รวมตัวเรียงรายกันตั้งแต่สมัยก่อนจึงทำให้เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าอนุรักษ์ทางด้านสถาปัตยกรรม เพียงแค่การเดินชมที่นั่นก็จะทำให้เราเห็นถึง การถูกอนุรักษ์ของชาวบ้านจากรุ่นสู่รุ่น เช่นเดียวกับสถาปัตยกรรมที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี ทำให้สิ่งที่ผู้มาเยือนได้รับกลับไปคือความรู้สึกที่เข้าถึงบรรยากาศเก่าๆ
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
ย่านเมืองเก่า Takayama (ถนนSanno machi)
ย่านที่รายล้อมไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ซึ่งสร้างขึ้นในยุคสมัยเอโดะ ตื่นตาตื่นใจไปกับการผสมผสานระหว่างตัวเมืองและวิวทิวทัศน์ของภูเขารอบเมืองเล็กๆแห่งนี้ ร้านค้าของที่ระลึกตลอดข้างทาง ช่างฝีมือซึ่งสามารถสั่งแกะสลักพวงกุญแจไม้เพื่อเป็นของที่ระลึก และยังมีของที่ระลึกซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือตุ๊กตา “Sarubobo” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองTakayama และชุดของตุ๊กตานั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละอาชีพ
เวลาทำการ: ตั้งแต่ 9 นาฬิกา-17 นาฬิกา
การเดินทาง: เดินทางประมาณ 10 นาทีจากสถานีTakayama
หมู่บ้านพื้นเมืองHida
เดินทางโดยรถบัสประมาณ 10 นาทีจากสถานีTakayama ด้วยพื้นที่ 99,000 ตารางเมตรเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในยุคสมัยเอโดะ (ระหว่างปี 1603-1867) ซึ่งคุณสามารถเห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในยุคสมัยนั้น พร้อมทั้งเยี่ยมชมบ้านทรงมุงหลังคาและสัมผัสประสบการณ์ อาทิเช่น การเล่นเกมส์แบบสมัยโบราณ หรือการทดลองสวมเสื้อผ้าของยุคสมัยเอโดะ
เวลาทำการ: ตั้งแต่ 8.30 นาฬิกา- 17 นาฬิกา
การเดินทาง: เดินทางประมาณ5นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดินOsakako สายChuo จากเมืองOsaka
ตลาดเช้าTakayama
คุณสามารถเที่ยวตลาดเช้าได้ 2 แห่ง ที่แรกอยู่ด้านหน้าของศาลเจ้าTakayama ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อ 300 ปีก่อน และอีกแห่งตั้งอยู่บริเวณข้างแม่น้ำMiyagawa สามารถหาซื้ออาหารท้องถิ่นจากร้านรถเข็น เช่น ผลไม้ ผักดอง รวมถึงของที่ระลึกและพลาดไม่ได้กับน้ำแอ๊ปเปิ้ลHida ซึ่งจำหน่ายอยู่บริเวณศาลเจ้าTakayama
เวลาทำการ: ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดถึงกลางวัน
การเดินทาง:อยู่บริเวณด้านหน้าของศาลเจ้าTakayama ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีจากสถานีTakayama
Takayama-morning-market
หมู่บ้าน Shirakawago
ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี1955 เป็นสถานที่ๆมีชื่อเสียงจากความหนาของบ้านมุงหลังคา สามารถเที่ยวชมหมู่บ้าน Shirakawago หมู่บ้านOgimachi และหมู่บ้านGokayama ด้วยโปรแกรมแบบOne day tour ในช่วงฤดูหนาว
ไม่ต้องกังวลเรื่องรถบัสขากลับหากคุณสามารถจองบ้านพักในหมู่บ้านได้ ซึ่งห้องพักจะถูกจองอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหมู่บ้านเหล่านี้ตั้งอยู่บริเวณภูเขาจึงมีอุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง งานเปิดไฟของหมู่บ้านShirakawago จะถูกจัดขึ้นปีละครั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของต้นเดือนกุมภาพันธ์
เวลาทำการ: ร้านค้าปิดทำการเวลา 17.00 นาฬิกา
การเดินทาง: 50 นาที จากรถShuttle Bus Nouhi expressway
เข้าปี 2018 มาได้เกือบครึ่งปีแล้ว เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเบื่อของฝากแบบเดิมๆ ใช่ไหม วันนี้เราขอมาอัพเดท ของฝากจากญี่ปุ่น 2018 ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมคือหาซื้อง่ายไม่ลำบากพร้อมพิกัดคร่าวๆ ด้วยน้า
1.Ichiran Tonkotsu Ramen Sauce & Noodles
ราเมนข้อสอบอันโด่งดังอย่างร้าน Ichiran ขวัญใจชาวไทยได้ออกผลิตภัณฑ์ราเมนพร้อมปรุงสุดสะดวก แค่ลวกเส้น ใส่น้ำ เติมซุปซองตามคำแนะนำ ก็ได้รสชาติราเมนสุดอร่อยอันโด่งดังแล้ว ใครอยากแบ่งความอร่อยให้เพื่อนๆ อย่าลืมจัดนะ
ราคา กล่องละ 2,200 เยน มี 5 ชุด
พิกัดซื้อ : ร้าน Ichiran Ramen และร้านดองกี้
2.ช็อกโกแลต เมจิ
เป็นที่รู้กันว่าช็อกโกแลตเมจิมีความอร่อยถูกใจใครหลายๆ คน นอกจากนี้ยังมีหลสยรถชาติ มีทั้งแบบช็อคโกแลตเข้มข้น ช็อกโกแลตนม ช็อกโกแลตมีไส้ ซึ่งแบบที่เหมาะกับเป็นของฝากคือแบบแยกห่อใส่ในกล่องสวยงาม ได้ได้ก็ถูกใจ ดูดี ที่สำคัญราคาไม่แพง
ราคา กล่องละ 220 เยน
พิกัดซื้อ : ร้านดองกี้ ตึกม่วง ดรักสโตร์ ซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป
3.Ginza Matcha Cake
จากผู้ผลิตเดียวกันจากโตเกียวบานาน่า ขอบอกเลยว่า Ginza Matcha Cake จัดความอร่อยมาให้คุณถึงสามชั้น เนื้อเค้กหอมหุ้มด้วยครีมมัทชะรสกำลังดีสอดใส้ถั่วแดงกวนผสมมัทชะเข้มข้น อร่อยจัดเต็มแถมแพคเกจดูดี เหมาะเป็นขอฝากสุดๆ
ราคา กล่องละ 4 ชิ้น 560 เยน
8 ชิ้น 1,080 เยน
12 ชิ้น 1,620 เยน
พิกัดซื้อ : ร้านขายของที่ระลึก สนามบิน
4.ผงโรยข้าวญี่ปุ่น
ผงโรยข้าว ญี่ปุ่น หรือ ฟุริคาเคะ (Furikake,ふりかけ) ความอร่อยสุดสะดวกที่จำทำให้ข้าวสวยอัพเลเวลความอร่อยเพียงฉีกซอง มีให้เลือกหลายรสชาติ ราคาไม่แพง บางแบรนด์อาจคิดรสที่ได้แรงบัลดาลใจจากอาหารแบรนด์ดัง หรือในร้านดังๆ เหมาะตะนำไปฝากเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก
ราคา แบบเพ็คมีซองย่อยเริมที่ 100 เยน
พิกัดซื้อ : ซุปเปอร์มาเก็ต ตึกม่วง ร้านสะดวกซื้อทั่วไป
5.Kitkat x Tokyo Banana
Kitkat และ Tokyo Banana เป็นไแเทมยอดฮิตของชาวไทย ทางผู้ผลิตจึงจัดหนัก ผสานสองสิ่งเข้าด้วยกันได้มาเป็นคิทเคท เวอเฟอร์กรอบไส้ครีมรสกล้วยแบบเดียวกันกับโตเกียวบานาน่า เคลือบช็อกโกแลต อร่อยเด็ดแถมมาในแพคเกจเหมือนโตเกียวบานาน่า ให้ใครถูกใจชัวร์
ราคา กล่อง 8 ชิ้น ราคา 702 เยน
กล่อง 15 ชิ้น ราคา 1296 เยน
พิกัดซื้อ : ร้านขายของที่ระลึก และสนามบิน
6.Nivea Delicious Drop
ลิปมันเป็นอีกหนึ่งไอเทมซื้อฝากที่น่าสนใจ ไลน์ Nivea Delicious Drop ลิปมันกลิ่นผลไม้เป็นอะไรที่ดีงามมากๆ มีให้เลืิอกหลายกลิ่น เช่น แอปเปปิ้ล พีช กลิ่นหอมดีงาม น่ากิน พร้อมการบำรุงริมผีปากครบคุณค่า เหมาะซื้อฝากสาวๆ
ราคา 280-380 เยน
พิกัดซื้อ : ดรักสโตร์ทั่วไป ร้านดองกี้
7.Taiyou-no-aloe Hyaluronic acid
Taiyou-no-aloe Hyaluronic acid ไอเทมเด็ดที่ได้รางวัลจาก cosme.net Hyaluronic acid เข้มข้น เพียงผสมกับครีม หรือเซรั่ม ก็เติมความชุ่มชื้น แข็งแรง ให้แก่ผิว ลดริ้วรอย และรูขุมขน ผู้ผลิตนี้เป็นเจ้าเดียวกันที่ส่งตัว Hyaluronic acid ให้แบรนด์ดัง
ราคา 500 เยน
พิกัดซื้อ : ดรักสโตร์ทั่วไป
8.Caramel Gianduja
ความอร่อยของช็อกโกแลตเฮเซลนัท และแครกเกอร์คาราเมลแบบพิเศษสุดกรุบกรอบ ออกมาสุดลงตัว มาพร้อมแพคเกจพร้อมแจก จะแจกทั้งกล่องหรือแจกเป็นซองๆ ก็ถูกใจ อร่อยโดนสุดๆ
ราคา กล่องละ 4 ชิ้น 504 เยน
8 ชิ้น 1,080 เยน
12 ชิ้น 1,620 เยน
พิกัดซื้อ : ร้านขายของที่ระลึก สนามบิน
วัดเซนโซจิ(Sensoji Temple) ที่มีหลายๆชื่อที่คนนิยมเรียกขานกันทั้งวัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง (Asakusa Kannon Temple) เป็นวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะและ) เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว โดยจะมีถนนนากามิเสะที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย บอกเลยว่านักท่องเที่ยวเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีใครไม่รู้จักวัดนี้แน่นอน ยิ่งในหมู่คนไทยแล้วล่ะก็เรียกได้ว่าถ้าไปโตเกียวต้องไปแวะเจิมวัดนี้แทบจะทุกคน โดยภาพส่วนใหญ่ก็จะเห็นแชะๆภาพพื้นหลังเป็นโคมแดงอันใหญ่ๆที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญมากๆของวัดแห่งนี้เลยทีเดียว ความนิยมเห็นง่ายๆเลยจากการที่มีผู้คนเดินทางมาสักการะและเที่ยวชมได้ทั้งตัววัดและบริเวณภายนอกแบบไม่ขาดสายเลยล่ะค่ะ
วัดที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่มากที่สุดของเมืองโตเกียวแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 645 ตามตำนานเล่าว่าเมื่อประมาณปี 628 สองพี่น้องได้ออกเรือไปตกปลา และตกรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) และแม้ว่าพวกเขาจะพยายามทิ้งรูปปั้นกลับลงสู่แม่น้ำเท่าไหร่ก็ตาม รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมก็จะกลับมาหาพวกเขาอยู่เสมอ จึงได้มีการสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และกลายมาเป็นวัดที่ฮอตฮอตอันดับหนึ่งของเมืองโตเกียวอย่างในปัจจุบันนี่เอง
1. คิโดะ ทาคาโยชิ (Kido Takayoshi)
บุตรชายแพทย์ซามูไร Wada Masakage เป็นรัฐบุรุษญี่ปุ่นในช่วงปลายงาวะและฟื้นฟูเมจิ เมื่อเขาทำงานกับโชกุน เขาใช้นามแฝงว่า Niibori Matsusuke เค้าคือ 1 ใน 3 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคปฏิรูปเมจิ ร่วมกับ โอคุโบะ โทชิมิจิ และ ไซโง ทาคาโมริ ทั้ง 3 จะรู้จักในนามว่า “the Ishin-no-Sanketsu” (สามขุนนางแห่งการฟื้นฟู) เป็นตัวแทนของแคว้นโจชู ที่ร่วมมือกับ แคว้นซัทสึมะ ในการโค่นล้มรัฐบาลโชกุน โทกุกาว่า และสถาปนารัฐบาลกลางแห่งองค์จักรพรรดิขึ้นมา รวมทั้งการยกเลิกระบบศักดินา และทำการปฏิรูประบบการเมือง การปกครอง ระบบเศรษฐกิจในญี่ปุ่น
2. ทาคาสุกิ ชินซาคุ (Takasugi Shinsaku)
คนดังแห่งแคว้นโจชู ทาคาสุกิ มีเป้าหมายเดียวกับ คัทซึระ ในการโค่นล้มรัฐบาลโชกุน ฟื้นฟูอำนาจพระจักรพรรดิ แต่ ทาคาสุกิ เลือกใช้วิธีแบบหัวรุนแรง ก่อตั้งกองกองทหารกว่า 300 คน(ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นซามูไร) โดยใช้ชื่อว่า Kiheitai (เรียกแบบเท่ๆ ในกินทามะว่า กองทหารอสุรา) ขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาล (หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนี้ก็คือ มือสังหารในตำนาน Kawakami Gensai ต้นแบบของ ฮิมุระ เคนชิน ใน ซามูไรพเนจร นั่นเอง)
3. มัตสึไดระ โยชินากะ (Matsudaira Yoshinaga)
ไดเมียว (เจ้าเมือง) แห่งแคว้นเอจิเซน สมัยเอโดะ เขาเป็นหนึ่งใน 4 ขุนนางที่ฉลาดที่สุดของกลุ่ม Bakumatsu
4. อาจารย์ ฟุคุซาวะ ยูคิจิ (Fukuzawa Yukichi)
คนสำคัญด้านการศึกษาของญี่ปุ่น ผู้นำระบบการศึกษาแบบตะวันตกเข้ามาใช้สอนในประเทศ อาจารย์ฟุคุซาวะ ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนแรกที่นำวิทยาการสมัยใหม่ของตะวันตกมาสอนให้กับคนญี่ปุ่น โดยตั้งโรงเรียนชื่อ Keio Gijuku ซึ่งในภายหลังได้พัฒนามาเป็นมหาวิทยาลัยเคโอ(Keio University มหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
5. โอคุมะ ชิเงโนบุ (Okuma Shigenobu)
นักการเมืองในจักรวรรดิญี่ปุ่น เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง, เคยเป็นนายกรัฐมนตรีถึง 2, เป็นผู้สนับสนุนเรื่องของวิทยาศาสตร์ตะวันตกและวัฒนธรรมในญี่ปุ่น อีกทั้งท่านยังเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยวาเซดะด้วย
6. ชิโร ไซโง (Shiro Saigo)
ศิษย์รุ่นแรกของ ปรมาจารย์คาโน่ จิโกโร่ (Kano Jigoro) ผู้คิดค้นวิชายูโด อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 4 จตุรเทพแห่งโรงฝึกโคโดคัง ผู้คิดค้นท่าทุ่มยามาอาราชิ อีกด้วย ปัจจุบันเขายังคงอยู่ในไอดอลญี่ปุ่นที่หนังสือหลายเล่มและภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเกี่ยวกับชีวิตความสำคัญของเขาและความกล้าหาญของเขาในฐานะนักสู้
เมื่อมาเยือนประเทศญี่ปุ่นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยคือ การมากินอาหารยอดฮิตของที่นี่ มีอาหารอร่อยๆมากมายให้ท่านได้ลองชิม
ซูชิหรือข้าวปั้นเมนูยอดฮิตสำหรับประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งคนไทยยังชื่นชอบเป็นอย่างมากด้วยความอร่อยและหน้าที่หลากหลายให้ท่านได้ลองทานอย่างไม่มีเบื่อ
อูนางิหรือข้าวหน้าปลาไหล เจ้าปลาไหลน้อยความยาวประมาณ 1 เมตร ถูกนำมาประกอบอาหาร และเป็นอาหารยอดนิยมในญี่ปุ่นจนถึงขณะนี้ ข้าวหน้าปลาไหลจะเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุป เช่น ซุปคิโมะซุย (きもすい) ที่ทำจากตับปลาไหล ซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นหรือมิโสะชิรุ
อีกหนึ่งเมนูที่เป็นที่ยอดนิยมที่สุดในประเทศญี่ปุ่นสำหรับ “ราเมน” ด้วยเส้นที่นุ่มละมุนลิ้นบวกกับน้ำซุปที่สุดแสนอร่อยกลมกล่อม จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
โซบะ (Soba)เป็นบะหมี่ที่ทำจากแป้งที่มาจากพืชที่เรียกว่าบัควีท มีความหนาประมาเส้นสปาเก็ตตี้ สามารถทานได้ทั้งร้อนและเย็น โซบะเป็นอาหารที่นิยมเป็นอย่างมาก เส้นโซบะที่ทำจากแป้งบัควีท 100 เปอร์เซ็น จะมีความกรอบ บางร้านจะมีการผสมแป้งสาลีลงไปด้วย เส้นโซะบะทั่วไปจะผสมแป้งบัควีทอยู่ระหว่าง 40-100 เปอร์เซ็น
เมืองน่าเที่ยวที่พูดถึงทุกคนต้องรู้จักกันดีสำหรับเมือง”โตเกียว”ของประเทศญี่ปุ่น เมืองที่ความเจริญและสะดวกสบาย เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์จึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเป็นจำนวนมาก มีมรดกและวัฒธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม เขตที่นักท่องเที่ยวนิยม คือ ชินจูกุ (Shinjuku) ชิบุย่า (Shibuya), ฮาราจูกุ , โอไดบะ (Odaiba) อิเคะบุคุโระ (Ikebukuro), (Harajuku) อาซากุสะ (Asakusa) อุเอโนะ (Ueno) อากิฮาบาระ (Akihabara) กินซ่า (Ginza) รปปงหงิ (Roppongi) และสิ่งที่ท่านพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองโตเกียวคือการชมวิวจากมุมสูงของตึกโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) หรือ โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) ให้ท่านได้ซึมซับบรรยากาศดีๆ กลับไปพร้อมความประทับใจแน่นอน
เมืองซับโปโรเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคฮอกไกโด เป็นเมืองที่มีการผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นกับสากลเข้าดวยกันจึงเป็นเมืองที่สวยงามและมีเสน่ห์น่าหลงไหลอีกหนึ่งเมือง และสิ่งที่ขึ้นชื่อและถูกพูดถึงมากที่สุด เทศกาลหิมะ เบียร์ ราเมน ที่คนมาเยือนจะพลาดไม่ได้ และในปี 1972 ได้มีการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาวที่นี่ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ สวนโฮโรมิโตเกะ, คิโรโระสกีรีสอร์ท Kiroro Ski Resort, ศาลเจ้าฮอกไกโด Hokkaido Shrine ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ เป็นต้น
เกียวโตเป็นอดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งอยู๋ห่างจากโอซาก้าประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งเมืองที่คุณมาเยือนแล้วต้องหลงรักอย่างแน่นอน ด้วยเมืองที่เป็นเอกลักษณ์มีความเก่าแก่และมีวัฒธรรมทางศาสนา วัฒธรรมการเมือง วัฒนธรรมอย่าง ตระกูลที่สืบทอดการชงชา ที่น่าสนใจ ในปี ค.ศ. 1994 ยูเนสโก ให้การรองรับกลุ่มนครเกียวโตในนามของ อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวโตโบราณ ในเมืองเกียวโตมีวัดและศาลเจ้าถึง17แห่ง ถ้าใครชอบเที่ยววัดหรือศาล เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ท่านไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
โยโกฮาม่า เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองรองจากโตเกียว ซึ่งมีประชากรอาศัยในเมืองนี้ถึง 3 ล้านคน มีที่ตั้งอยู่กรุงตอนใต้ของโตเกียว ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเมืองที่มีท่าเรือที่ใหญี่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความเก่าแก่ และเป็นศูนย์กลางการค้า อุตสาหกรรม แฟชั่นและคมนาคมไปสู่ภูมิภาคอื่น มีชื่อเสียงด้านราเมงจนมีพิพิธภัณท์ราเมง และริมทะเลตอนกลางคืนที่สวยงามจึงเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน
แน่นอนมาญี่ปุ่นทั้งทีเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากอีกเมืองหนึ่งคือเมือง”โอซาก้า” ซึ่งเป็นเมืองที่มีศูนย์กลางเศรษฐกิจอันดับ2ของญี่ปุ่น มีความคึกคักด้านการท่องเที่ยว และเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกิน วัฒธรรม ปราสาทโอซาก้าและสวนสนุกที่สวยงามและโด่งดัง ย่านที่นักท่องเที่ยวนิยม คือ ย่านมินามิ นัมบะ และชินไซบาชิ ย่านคิตะ/อูเมดะ
เป็นเมืองหลวงของเมืองโอกินาว่าที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และวัฒธรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ปราสาทชุริเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของนาฮะ และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ทะเลสวย ถ้าใครได้มาเยือนต้องหลงรักอย่างแน่นอน
เมืองที่เต็มไปด้วยความจำแห่งประวัติศาสตร์ เป็นเมืองที่มีดินแดนที่เต็มไปด้ยเสน่ห์ ทั้งสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ ศาสนา และอีกหนึ่งความประทับใจเวลาไปเยือนเมืองนี้คือความน่ารักของเจ้ากวางน้อย พร้อมสร้างรอยยิ้มให้กับท่านที่มาเยี่ยมชมอยู่เสมอ และยังมีแหล่งท่องเที่ยววที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น สวนนารา, วัดโทไดจิ, วัดยาคุชิจิ,ศาลเจ้าทานซาน, ภูเขาวาคาคุซายามะ และอื่นๆอีกมากมายที่พร้อมให้คุณมาสัมผัส
เมืองฮิโรชิม่าในอดีตเคยเป็นเมืองบนเกาะฮอนชูที่มีความรุ่งเรือง เป็นเมืองที่มีธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่สวยงาม เช่น ภูเขาที่เขียวชอุ่มและแม่น้ำ 6 สายที่ไหลผ่านเขตเมือง, ทะเลเซโตะไนที่สงบ และมีสถานที่สำคัญ คือ ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (厳島神社), สะพานคินไตเคียว (錦帯橋) และยังได้มีการสร้างอนุสรณ์เพื่อรำลึกความทรงจำอย่าง A-bomb Dome และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาย คือ ปราสาทฮิโรชิมะ, สวนสาธารณะสันติภาพ,โดมปรมาณู,เพิพิธภัณฑ์แก้ว และอีกมากมาย
เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเอกลักษณ์ มีการผสมผสานกันระหว่างความเป็นตะวันตกและญี่ปุ่นเอาไว้ด้วยอย่างกลมกลืน เป็นเมืองที่มีเสน์ห์อย่างและน่าค้นหาและมีความหลากหลายของเชื้อชาติและวัฒนธรรมของผู้คนที่มารวมกัน มีท่าเรือและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เช่น พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว บ่อน้ำพุร้อนอะริมะ ไชน่าทาวน์ย่านนานกิ่งมะชิ สวนเมริเคน เป็นต้น เมืองโกเบจึงได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ
เมืองฟุกุโอกะ เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ของภูมิภาคคิวชูที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความทันสมัย เป็นท่าเมืองของญี่ปุ่นมาหลายร้อยปี เป็นปหล่งที่มีอาหารทะเลที่สดและอุดมสมบูรณ์ มีความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน ฟุกุโอกะมีสภาพภูมิกาศอบอุ่นแบบพื้นที่ทางตอนใต้ มีอากาศร้อนขึ้นในช่วงฤดูร้อน และฤดูหนาวที่มีอากาศไม่หนาวจัด ส่วนช่วงฤดูใบไม้ร่วงนับเป็นช่วงเวลาที่ดีในการมาเยือน ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงที่มีการจัดงานเทศกาล Hakata Dontaku ที่เที่ยวสุดฮิต เช่น 1.ย่านซุ้มขายอาหารสไตล์ยาไตริมแม่น้ำ(Yatai Food Stall) 2. สวนโอโฮริ(Ohori Park) 3. วัดโชฟุคุจิ(Shofukuji) 4. สวนสาธารณะริมทะเล โมโมชิ และหอคอยฟุกุโอกะ(Momochi Park and Fukuoka Tower) 5. ย่านช้อปปิ้ง เทนจิน(Tenjin) เป็นต้น