เที่ยวญี่ปุ่นปี 2023 แบบซี้ดๆ กับ 1 เส้นทางทัวร์จาก Travelzeed

เที่ยวญี่ปุ่นปี 2023 แบบซี้ดๆ กับ 1 เส้นทางทัวร์จาก Travelzeed

นาทีนี้เรียกได้ว่าไม่มีการท่องเที่ยวประเทศไหนร้อนแรงเท่าประเทศญี่ปุ่นแล้ว เลื่อนฟีดไปก็เจอแต่คนอยู่ญี่ปุ่นก็เลยอยากไปเที่ยวแบบเขาบ้าง แต่ตัวเองยังมือใหม่กับการเที่ยวญี่ปุ่น แพลนไม่ถูกว่าจะไปไหนดี เราเลยอาสารวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวน่าเที่ยวในญี่ปุ่นที่ต้องไปในปี ค.ศ. 2023 นี้โดยแบ่งออกเป็น 5 เส้นทางในภูมิภาคต่างๆ แต่ละเส้นทางสามารถเก็บให้ครบได้ในทริปเดียว แต่ถ้าอยาก เที่ยวญี่ปุ่น สบายๆ ราคาเบาๆ ไม่ต้องกลัวหลง แนะนำให้ซื้อทัวร์กับ Travelzeed เพราะไม่ว่าจะทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ฮอกไกโด ทัวร์โอซาก้า ทัวร์โตเกียว หรือ ทัวร์ฟุกุโอกะ เขาก็จัดทริปมาให้เลือกหลากหลาย พาไปเที่ยวสบายๆ ไม่ต้องกลัวโดนเท

01 เที่ยวโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียง

หากเอ่ยถึงจุดหมายยอดนิยมของโตเกียวที่ถ้าไปโตเกียวครั้งแรกก็ต้องแวะนั่นก็คือ วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซ็นโซจิ (Asakusa Temple / Sensoji Temple) วัดนิกายชินโตอันเก่าแก่ของโตเกียวที่โดดเด่นด้วยโคมยักษ์สวยสะดุดตา อีกทั้งมีสถาปัตยกรรมที่ละเอียดลออ ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิจะมีการจัดเทศกาลยิ่งใหญ่ราว 3-4 วันติดต่อกันด้วย บริเวณลานหน้าวัดยังมีร้านขายของฝากและอาหารทานเล่นชื่อดังหลายเจ้า ใครที่มาเที่ยวที่นี่แล้วกำเงินกลับออกไปครบคือแปลกมาก

ภาพของสะพานเรนโบว์บริดจ์ (Rainbow Bridge) และเกาะเล็กๆ ที่สวยงามเหล่านี้เป็นวิวยอดนิยมที่มองจากโอไดบะ (Odaiba) เกาะเทียมที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยนำขยะมาถมหลายสิบปี บนเกาะแห่งนี้มีอาคารสำนักงานที่ทันสมัยและศูนย์การค้าที่ใหญ่โตมากมาย โดยมีการก่อสร้างและปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในปี ค.ศ. 2022 โลเคชั่นที่ไม่ควรพลาดบนเกาะแห่งนี้ก็คือเทพีเสรีภาพที่หันหลังให้กับอ่าวโตเกียว และหุ่นกันดั้มยักษ์ที่เมื่อถึงเวลาที่กำหนดที่ขยับและส่องแสงออกมาด้วย

ไม่ว่าใครมาเห็นโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) เป็นครั้งแรกก็ต้องตื่นเต้นกับความสูงและการออกแบบที่โดดเด่น แถมตอนกลางคืนจะมีไฟสีๆ ส่องแสงอย่างน่าตื่นตา หากขึ้นไปด้านบนจะได้ชมทิวทัศน์ของมหานครโตเกียวจากมุมที่อาจเรียกได้ว่าดีที่สุด ไม่ไกลจากตัวหอคอยจะพบกับแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) ไหลผ่านซึ่งเป็นจุดที่มักพบเห็นเรือนำเที่ยว หากมาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้ชมทิวต้นซากุระที่เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำอีกด้วยคาวาโกเอะ (Kawagoe) เป็นเมืองศูนย์กลางของจังหวัดไซตามะ ใกล้กับโตเกียวมาก โดยไฮไลท์อยู่ที่ย่านชื่อว่าโคเอโดะ (Koedo) หรือหมายถึง “เอโดะน้อย” เป็นย่านที่มีบรรยากาศย้อนยุคราวกับญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ (ประมาณ 400 ปีก่อน) ร้านรวงส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นร้านขายขนมญี่ปุ่นและข้าวของเครื่องใช้ที่ล้วนแต่ดีไซน์ออกมามีเอกลักษณ์ติดกลิ่นอายย้อนยุค สำหรับใครที่มาเที่ยวโตเกียวแต่ยังไม่มีโอกาสไปเที่ยวเกียวโตก็สามารถมาสัมผัสบรรยากาศที่ใกล้เคียงกันที่นี่ได้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลเคชั่นในฝันของคนไทยที่อยากมาเห็นกับตาตัวเองที่สุดก็ต้อง ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ซึ่งตั้งอยู่คาบเกี่ยวสองจังหวัด ได้แก่ ยามานาชิ และ ชิซูโอกะ เนื่องจากขนาดที่ใหญ่โตมากจึงมีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่มากมายนับไม่ถ้วน ถ้านั่งรถจะได้ชมวิวหลายๆ มุมอย่างจุใจ นอกจากนี้การมาชมภูเขาไฟฟูจิในฤดูกาลต่างๆ ที่แตกต่างกันก็จะเห็นวิวสวยแตกต่างกันไป อย่างฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นวิวซากุระด้วย ฤดูร้อนก็จะเห็นป่าไม้เขียวชอุ่ม ฤดูใบไม้ร่วงเห็นใบไม้แดง และฤดูหนาวเห็นหิมะขาวโพลนปกคลุม

parlementfran cophonedesjeunes